อียูพุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่และองค์กรต่างๆ ของอิหร่านมากขึ้นในเรื่องการปราบปราม

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกับ 2 องค์กรและชาวอิหร่าน 32 คน รวมถึงรัฐมนตรีวัฒนธรรมและการศึกษา เจ้าหน้าที่ข่าวกรอง และสมาชิกสภานิติบัญญัติ โดยกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับการปราบปรามผู้ประท้วงด้านความมั่นคงของอิหร่าน

การประท้วงเริ่มขึ้นหลังจากการเสียชีวิตของมาห์ซา อามีนี วัย 22 ปี เมื่อวันที่ 16 กันยายน หลังการจับกุมของเธอโดยตำรวจศีลธรรมของสาธารณรัฐอิสลาม และกลายเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ร้ายแรงที่สุดต่อระบอบเทวนิยมของอิหร่านนับตั้งแต่การปฏิวัติอิสลามในปี 2522

มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 529 คนในการประท้วง ตามการระบุของนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนในอิหร่าน เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวคนอื่นๆ กว่า 19,700 คน ท่ามกลางการปราบปรามอย่างรุนแรงที่พยายามปราบปรามผู้เห็นต่าง บางคนที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงถูกประหารชีวิต

สหภาพยุโรปกล่าวว่าได้สั่งอายัดทรัพย์สินและห้ามเดินทางกับเจ้าหน้าที่ 32 คนและอายัดทรัพย์สินของทั้งสององค์กรเนื่องจากพวกเขา “มีส่วนร่วมในการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงในอิหร่าน”

กลุ่มประเทศ 27 ชาติได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่และองค์กรต่างๆ ของอิหร่านไปแล้ว 4 รอบ รวมถึงรัฐมนตรีอื่นๆ นายทหาร และตำรวจศีลธรรมของอิหร่าน สำหรับข้อกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิ